|
|
5 วิธีง่ายๆ ทำให้บ้านหอมสดชื่น
แม้ว่าการทำความสะอาดบ้านรับฤดูใบไม้ผลิจะใช้เวลาพอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้ความเหนื่อยนั้นคุ้มค่าก็คือ “กลิ่นหอม” ที่อบอวลภายในบ้านหลังทำเสร็จ ความรู้สึกเมื่อได้เดินเข้าบ้านที่สะอาด พร้อมสูดอากาศสดชื่นกลิ่นดอกไม้ ซิตรัส หรือแม้แต่กลิ่นสะอาดบริสุทธิ์ไร้กลิ่นใดๆ เลย คือความสุขเล็กๆ ที่เติมเต็มวันของคุณได้อย่างดี และในช่วงเวลานี้ของปี ถือเป็นโอกาสเหมาะในการทำให้บ้านหอมสดชื่นขึ้นด้วยขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่อย่างเท่านั้น
ฉันเป็นคนพิถีพิถันเรื่องความสะอาดมาก จึงแทบไม่ปล่อยให้กลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยอยู่ในบ้านเลย เพื่อให้ได้เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับอากาศและกลิ่นในบ้านให้หอมยาวนาน ฉันได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและคุณภาพอากาศ ซึ่งมีคำแนะนำดีๆ สำหรับใครที่อยากให้บ้านหอมสดชื่นไปตลอดฤดู
1. เทขยะเป็นประจำ
อย่าคิดว่าถังขยะยังไม่เต็มแล้วไม่ต้องเท เพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์อาจสะสมได้แม้มีขยะเพียงเล็กน้อย การนำขยะออกเป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่ทำอาหารประเภทเนื้อหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ จะช่วยลดกลิ่นได้อย่างมาก
ไรอัน นอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและเจ้าของบริษัท Tidy Casa แนะนำว่า “ภาชนะที่ใส่อาหารหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์จะเริ่มมีกลิ่นเร็วมาก ควรนำออกทันที และอย่าลืมล้างถังขยะอย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ เพราะบางครั้งถุงขยะรั่วหรือมีของเหลวหก ทำให้กลิ่นติดอยู่ในถังได้”
2. จุดเทียนหอม หรือใช้สเปรย์ปรับอากาศ
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฉันชอบเทียนกลิ่น Poppy Rose ของ NoHo Candle Co เพราะมีกลิ่นอบอุ่นแต่ไม่หวานเกินไป อีกกลิ่นที่โปรดคือ Voluspa French Cade Lavender ที่ผสมผสานกลิ่นสมุนไพร ดอกไม้ และกลิ่นดินได้ลงตัว ส่วนสเปรย์ห้องก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถฉีดลงบนผ้าปูที่นอนหรือเฟอร์นิเจอร์ผ้าได้ด้วย กลิ่นที่ฉันหลงรักคือ Sandalwood Rose ของ P.F. Candle Co ให้ความรู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ผลิในป่าเวทมนตร์
แต่ถ้าคุณอยากได้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติแท้ๆ โดยเฉพาะในห้องครัว สูตรหม้อต้มสมุนไพรของแม่ฉันทำง่ายมาก ได้ผลดี และยังดื่มได้อีกด้วย
3. ลงทุนกับเครื่องฟอกอากาศ
แม้เทียนหอม สเปรย์ หรือดิฟฟิวเซอร์จะช่วยสร้างบรรยากาศให้หอมได้ดี แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาคุณภาพอากาศภายในบ้านให้สะอาด ไม่ใช่เพียงแค่ “กลบกลิ่น” แต่ต้องกำจัดสาเหตุของกลิ่น เช่น ฝุ่น เชื้อรา หรืออนุภาคอันตรายด้วย
ไมเคิล รูบิโน ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อราและคุณภาพอากาศ แนะนำว่า “เครื่องฟอกอากาศที่มีฟิลเตอร์คาร์บอนสามารถดูดซับก๊าซและอนุภาคขนาดเล็กได้ดีมาก ถ้าจะให้คุ้มค่า ควรเลือกเครื่องที่สามารถกรองอนุภาคเล็กกว่า HEPA มาตรฐาน เพื่อให้ได้อากาศสะอาดจริงๆ ไม่ใช่แค่บ้านหอม แต่ยังดีต่อสุขภาพด้วย”
4. ดูดฝุ่นพรมและพรมเช็ดเท้าเป็นประจำ
หากคุณเคยเดินเข้าบ้านแล้วได้กลิ่นอับหรือกลิ่นฝุ่นเก่า อาจถึงเวลาทำความสะอาดพรมอย่างล้ำลึกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดูดฝุ่นพรมและพรมเช็ดเท้าเป็นประจำ และอย่าลืมเทฝุ่นออกจากเครื่องดูดฝุ่นทุกครั้ง รวมถึงล้างทำความสะอาดเครื่องบ่อยๆ
รูบิโนยังแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบ HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กมาก เช่น สปอร์เชื้อราได้ “ถ้าคุณเคยได้กลิ่นแปลกๆ ระหว่างดูดฝุ่น แสดงว่าเครื่องดูดฝุ่นนั้นมีฝุ่นและกลิ่นสะสมอยู่ในถังเก็บ ควรล้างทุกครั้งก่อนใช้งานหรืออย่างน้อยทุกสองครั้ง” เขากล่าว
และถ้าอยากเพิ่มกลิ่นหอมระหว่างทำความสะอาด ลองใช้เคล็ดลับของแม่ฉัน — สูตรผงปรับกลิ่นจากวัตถุดิบในครัว ที่โรยบนพรมก่อนดูดฝุ่น รับรองได้ผลดีทุกครั้ง
5. ทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง
คงไม่มีอะไรน่าหงุดหงิดไปกว่าการทำความสะอาดบ้านทั้งวันแล้วจู่ๆ ได้กลิ่นอาหารบูดลอยขึ้นมา ทั้งที่ก็เทขยะไปหมดแล้ว นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าท่อน้ำทิ้งหรือเครื่องบดเศษอาหารในครัวต้องการการล้างอย่างจริงจัง
นอลล์แนะนำว่า “ให้เทเบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะลงท่อ ตามด้วยน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วย ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ แล้วเปิดน้ำร้อนให้น้ำไหลล้าง จะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีมาก” หากอยากเพิ่มความหอมสดชื่น ให้บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูกก่อนล้าง
เพียงแค่ 5 ขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้ ก็ช่วยให้บ้านของคุณหอมสะอาด สดชื่น พร้อมต้อนรับฤดูใหม่ได้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำหอมราคาแพง |
|