รีวิว Garmin fēnix 8 MicroLED สมาร์ทวอชท์จอใหญ่ สว่างสุด ครบถ้าจ่ายไหวนะ

CasinoGames

กลับมาพกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง ใครที่กำลังมองหานาฬิกา Smart Watch กลุ่ม Multi-Sport และต้องบอกว่าเน้นความล้ำของเทคโนโลยีโดยเฉพาะการแสดงผล วันนี้ ขอเชิญพบกับ Garmin Fenix 8 MicroLED ใหม่ แม้หน้าตาจะเหมือนกับ Fenix 8 ทั่วไปแต่ว่าสิ่งที่ไม่เหมือนกันเลยคือหน้าจอ แต่เราพาคุณมาดูกันแบบเจาะลึกกันครับ
ดีไซน์ภายนอก



Garmin Fenix 8 MicroLED มาจะมาพร้อมกับหน้าจอใหญ่สุดโดยขนาดตัวเรือนที่ 51 มิลลิเมตร ดีไซน์เน้นเรื่องความแกร่งเพราะติดตั้ง กระจกซัฟฟราย สุดแกร่ง แต่นั่นไม่ได้ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจเท่ากับหน้าจอ MicroLED ซึ่งจะบอกว่าเป็นเทคโนโลยีที่สว่างมากพอสมควรและยังมาพร้อมกับหน้าจอแบบทัชสกรีน

รอบตัวเรือนออกแบบให้แกร่งความสมบูรณ์แบบประกอบด้วย

  

• ด้านซ้าย: ปุ่มบน （Light/Power）, ปุ่มกลาง （Menu/Scroll）, ปุ่มล่าง （Start/Stop/Activities）
  
• 
  
• ด้านขวา: ปุ่มบน （Up/Menu Navigation）, ปุ่มล่าง （Down/Menu Navigation）
  
• ส่วนบน จะมีไฟฉาย
  
• ส่วนล่าง ลำโพงตัวเครื่อง
  

  

ด้านล่างมีระบบเซ็นเซอร์ที่เรียกว่ามาให้แบบครบครัน ทำให้วัดทั้งชีพจร, ตรวจจับเรื่องความเครียด, จัดวัดการนอนได้เช่นเดียวกัน มาพร้อมกับระบบชาร์จไฟ  

ส่วนสายนาฬิกา รองรับการเปลี่ยนสายได้ （QuickFit compatible） ขนาดมาตรฐาน 26 มม. （สำหรับขนาดเคส 51 มม.） และมักจะมาพร้อมสายซิลิโคน （Silicone Band） คุณภาพสูงที่ทนทานต่อกิจกรรมหนักๆ
หน้าจอ MicroLED ใน Garmin Fenix 8

  

จุดเปลี่ยนสำคัญของ Garmin Fenix 8 ในรุ่นนี้คือ มาพร้อมเทคโนโลยี MicroLED รุ่นแรกของโลก ซึ่งประกอบด้วย LED ที่มีขนาดเล็กมาก （1–10 ไมครอน） มากกว่า 400,000 ดวง ทำให้มีความสว่างสูงสุดถึง 4,500 nits ให้ความสว่างและความละเอียดสูงเป็นพิเศษ สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้ขณะอยู่กลางแดดจ้า อีกทั้งยังให้คอนทราสต์ที่สูงขึ้น 6 เท่า และมุมมองภาพที่กว้างเป็นพิเศษ แม้จะมองจากมุมเอียง （Off-angle viewing） หน้าจอเป็นระบบสัมผัส （Touchscreen） และมาพร้อมเลนส์ป้องกันรอยขีดข่วน  
ฟีเจอร์เด่นของ Garmin Fenix 8 Microled

Garmin Fenix 8 Microled จะมีพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่เรียกว่าสามารถใช้งานในเรื่องของการใช้งานในทุกรูปแบบ เช่น

ฟีเจอร์ Smart Watch  

• ตัวเครื่องจะรองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน, Garmin Pay สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส, และอาจมี ไมโครโฟนและลำโพง ในตัวเพื่อรองรับการโทรศัพท์เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน แถมยังสามารถใช้โทรเข้าและออกโดยผ่านทั้ง Garmin Famliy Share เข่นเดียวกัน
  

ฟีเจอร์ การดูแลสุขภาพใหม่

• รายงานตอนเช้า （Morning Report）: สรุปข้อมูลสำคัญเมื่อตื่นนอน เช่น คุณภาพการนอนหลับ, สถานะ HRV （Heart Rate Variability）, และคำแนะนำการฝึกซ้อมประจำวัน
  
• สถานะ HRV: ติดตามความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างนอนหลับ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมสุขภาพ, การฟื้นตัว, และความพร้อมในการฝึกซ้อม
  
• Pulse Oximetry （Pulse Ox）: วัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ทั้งในขณะตื่นและหลับ
  

ฟีเจอร์การออกกำลังกาย

สำหรับในเรื่องของฟีเจอร์ออกกำลังกาย โดยมาพร้อมกับ ประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้งานได้แบบออกกำลังกายได้แบบครบครันเช่นการออกกำลังกายในยิม, แบบไตรกีฬา และรวมไปถึงฟีเจอร์เกี่ยวกับการดำน้ำและว่ายน้ำรุ่นนี้ก็ทำได้  

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์วิเคราะห์ด้านการวิ่งและมี Garmin Coach ซึ่งจะเหมือนกับมีครูฝึกสอนการวิ่งได้เช่นเดียวกัน และทั้งนี้ในรุ่น Fenix 8 จะมีระบบ GPS/GNSS ที่แม่นยำสูง พร้อมแผนที่กลางแจ้งและสนามกอล์ฟในตัว
ฟีเจอร์ ขอความช่วยเหลือ （InReach® และ SOS）

สิ่งที่เพิ่มเข้ามากับนาฬิการุ่นนี้คือระบบขอความช่วยเหลือ InReach ซึ่งเป็นการช่วนเหลือผ่านการกดปุืมเรียก SOS ซึ่งจะทำให้ศูนย์ Garmin Response รู้่ทันทีว่าคุณอยูาตรงไหน โดยระบบจะแชร์พิกัดท ี่อยู่ รวมถึงติดต่อส้งข้อความ ทำได้ทั้งระบบผ่านคลื่นมือถือ หรือจะทำผ่านดาวเทียมได้ น่าเสียดายฟีเจอร์นี้จะมีเฉพาะ เฉพาะรุ่น fēnix 8 Pro Series เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการวางจำหน่ายในประเทศไทย
แบตเตอรี่

สุดอึดเพราะ Garmin Fenix 8 Series จะสามารถใช้งานได้ยาวนานสุด 10 วันในโหมดของ Smart Watch และสามารรถใช้งานกับโหมดของ GPS ได้นานสุดที่ 44 ชั่วโมง ส่วนระบบการชาร์จไฟสามารถเสียบสายขที่เป็นแบบเฉพาะของ Garmin
สรุปหลังสัมผัส Garmin Fenix 8



ดังนั้นถ้าจะสรุปแบบชัดเจนเกี่ยวกับ Garmin Fenix 8 MicroLED ต้องบอกว่า เป็นอีก Smart Watch ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ และการใช้งานแบบ Smart Watch นี่เป็นอีกทางเลือกที่ดีและสมบูรณ์แบบ ถ้าจ่ายไหวกับราคารุ่นนี้ที่ 66,990 บาท แต่ถ้าไม่ไหวแล้ว Garmin ยังมีทางเลือกอีกในตระกูล Fenix, Forerunner, VENU และ Instinct เป็นต้น