อาหารที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นมีจริงหรือ? เช็กลิสต์อาหารที่ควรเลี่ยง เพื่อสุขภาพจุดซ่อนเร้น
เปิดลิสต์อาหารที่ส่งผลต่อ “กลิ่นน้องสาว“ คุณกินอะไรเข้าไป กลิ่นก็เป็นอย่างนั้น!กลิ่นของจุดซ่อนเร้น หรือช่องคลอด เป็นข้อกังวลทั่วไปของผู้หญิงหลายคน และเป็นความจริงที่ว่า “You are what you eat“ หรือ “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น“ สามารถนำมาปรับใช้กับเรื่องนี้ได้ อาหารที่เรารับประทานเข้าไปสามารถส่งผลต่อค่า pH และสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกลิ่นตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ากลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะอาหารมักจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และควรรู้จักแยกแยะระหว่างกลิ่นที่เปลี่ยนไปตามอาหารกับกลิ่นที่เกิดจากการติดเชื้อเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ
กลิ่นปกติและกลิ่นที่ต้องระวัง
ก่อนจะกังวลเรื่องอาหาร ควรแยกแยะกลิ่นปกติออกจากกลิ่นที่เป็นสัญญาณเตือน ช่องคลอดที่มีสุขภาพดีโดยธรรมชาติจะมีกลิ่นอ่อน ๆ ที่มีลักษณะเป็นกรดเล็กน้อย (คล้ายโยเกิร์ต) และอาจมีกลิ่นคล้ายโลหะเล็กน้อยในช่วงมีประจำเดือน หากมีกลิ่นเหม็นคาวปลาอย่างรุนแรง กลิ่นเหม็นเน่า หรือมีอาการคัน แสบ และตกขาวผิดปกติร่วมด้วย นี่ไม่ใช่ผลจากอาหาร แต่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น ภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย (BV) หรือการติดเชื้อรา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
กลุ่มอาหารที่อาจทำให้กลิ่นจุดซ่อนเร้นเปลี่ยนไป
อาหารเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันตราย แต่สารประกอบในอาหารอาจถูกขับออกมาทางสารคัดหลั่ง ทำให้กลิ่นเปลี่ยนแปลงไปชั่วคราวได้ ผู้หญิงบางคนมีความไวต่ออาหารกลุ่มนี้มากกว่าคนอื่น
1. อาหารกลิ่นฉุนและเครื่องเทศ
อาหารกลุ่มนี้มีสารประกอบกำมะถัน (Sulfur) ที่มีกลิ่นแรง ซึ่งเมื่อร่างกายย่อยแล้ว สารเหล่านี้จะถูกขับออกและเปลี่ยนกลิ่นตัวรวมถึงกลิ่นจุดซ่อนเร้นได้ อาหารที่พบบ่อยได้แก่ กระเทียม, หัวหอม, หน่อไม้ฝรั่ง และเครื่องเทศกลิ่นแรง เช่น แกงกะหรี่ หรือยี่หร่า นอกจากนี้ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี และกะหล่ำปลี ก็มีกำมะถันเช่นกัน
2. อาหารรสหวานและคาร์โบไฮเดรตขัดสี
นี่คือกลุ่มที่ส่งผลเสียต่อสมดุลแบคทีเรียโดยตรง น้ำตาล, ของหวาน, และน้ำอัดลม คืออาหารชั้นดีของเชื้อรา “แคนดิดา“ (Candida) การกินหวานมากเกินไปอาจทำให้เชื้อราเติบโตอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การติดเชื้อราในช่องคลอด ซึ่งมักจะมีอาการคันและตกขาวเป็นก้อน คาร์โบไฮเดรตขัดสี เช่น ขนมปังขาว ก็จะถูกย่อยเป็นน้ำตาลอย่างรวดเร็วเช่นกัน
3. เครื่องดื่มบางชนิดและอาหารไขมันสูง
แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ และ กาแฟ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นแรง อาจส่งผลต่อกลิ่นของสารคัดหลั่งในร่างกายได้ นอกจากนี้ อาหารไขมันสูง และการรับประทาน เนื้อแดง ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ค่า pH ของร่างกายมีความเป็นด่างมากขึ้น ซึ่งไม่ดีต่อสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดอ่อน ๆ ในช่องคลอด
กลุ่มอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของช่องคลอด
ในทางตรงกันข้าม การรับประทานอาหารเหล่านี้จะช่วยรักษาสมดุล pH ที่ดี (ความเป็นกรดอ่อน ๆ) และส่งเสริมแบคทีเรียชนิดดี “แลคโตบาซิลลัส“ (Lactobacilli) ที่จำเป็นต่อสุขภาพของช่องคลอด
1. โพรไบโอติกส์ (Probiotics)
โพรไบโอติกส์คือ “ทหารเอก“ ที่ช่วยรักษาสมดุลในช่องคลอด อาหารสำคัญที่สุดคือ โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ ไม่หวาน) และคีเฟอร์ ซึ่งมีวัฒนธรรมแบคทีเรียมีชีวิตที่ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ดีในร่างกาย
2. น้ำเปล่าและผลไม้
การดื่ม น้ำเปล่า ให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะช่วยเจือจางกลิ่นของสารคัดหลั่งและขับของเสียออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลไม้ที่ช่วยเสริมสุขภาพ เช่น แครนเบอร์รี ที่มีสารป้องกันแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ และ สับปะรด ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีการพูดถึงมากที่สุดว่าช่วยปรับสมดุล pH
อาหารเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อกลิ่นของจุดซ่อนเร้น หากกลิ่นเปลี่ยนไปหลังจากรับประทานอาหารบางชนิด กลิ่นนั้นมักจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยพื้นฐาน เช่น สวมใส่กางเกงชั้นในผ้าฝ้าย และไม่ควรสวนล้างช่องคลอดโดยเด็ดขาด หากกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นรุนแรง คงอยู่นาน หรือมีอาการคันและตกขาวผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
页:
[1]